วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) (ครั้งที่ 5)

Learning Log (นอกห้องเรียน)
8/09/58
(ครั้งที่ 5)
                ทักษะการพูดภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่เด็กไทยทุกคนต้องฝึกฝน การพูดนั้นถือเป็นการสื่อสารหลักที่ทุกคนต้องเรียนรู้ ต้องเข้าใจในเนื้อหาที่จะพูด การสื่อสารกับคนรอบข้างล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าใจในภาษาได้ ความรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือผลิตขึ้น ความคิด ความเชื่อ ความจริง ความหมาย มนุษย์ทุกคนแสดงสิ่งเหล่านี้ด้วยภาษาคำพูด ภาษาท่าทาง เพื่อเป็นการสื่อสารให้เข้าใจอย่างชัดเจนในปี2015 ปลายปีประเทศในฐานะที่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ประเทศไทยจึงมีบทบาทมากในการเป็นตัวหลักเพื่อจะเข้าสู้เป็นส่วนหนึ่งในการมีส่วนร่วมด้านการสื่อสาร โดยภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารของคนในอาเซียน ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักที่จะจำเป็นอย่างมากในการสื่อสาร โดยเด็กไทยนั้นจะมีปัญหาในภาษาอังกฤษมากโดยเฉพาะด้านการพูด การพูดภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่เด็กไทยคิดว่ายากการที่เราจะเข้าใจชาวต่างชาตินั้น เราต้องมีทักษะหลายๆอย่างที่จะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ถึงแม้ว่าประเทศจะมีหลักสูตรการศึกษาโดยเน้นภาษาอังกฤษเป็นหลักแต่ก็ไม่ได้สามารถให้เด็กไทยสามารถเข้าใจและสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะมีปัจจัยที่มีสาเหตุหลายอย่าง เนื่องจากเด็กไทยมีความรู้ทางไวยากรณ์น้อยไม่กล้าที่จะพูดคุยกับฝรั่งหรือชาวต่างชาติ แต่ทักษะการพูดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับไวยากรณ์เลย การที่เด็กไทยจะสามารถพูดและเข้าใจในสิ่งที่ชาวต่างชาติพูดนั้นก็คือ การที่เด็กสามารถฟังเสียงของชาวต่างชาติได้ถูกต้องและชัดเจน สามารถเข้าใจคนศัพท์ได้อย่างชัดเจนและแปลความหมายได้ถูกต้อง เราก็จะเข้าใจชาวต่างชาติแล้วแต่การที่เราจะเข้าใจชาวต่างชาติได้นั้น เราต้องพยายามเรียนรู้ และฝึกฝนบ่อยๆโดยเฉพาะการที่เราฝึกพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงการพูดคุยผ่านทางโซเซียลก็เป็นวิธีที่ดีหนึ่งที่เราสามารถพูดคุยได้และสามารถได้เรียนรู้ศัพท์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือไม่แม้แต่การที่เราเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็แล้วแต่เป็นการพูดโต้ตอบโดยตรงนั้นเราก็จะสามารถที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน แต่เทคนิคและวิธีที่สามารถทำให้เราสามารถพูดได้เร็วและไม่อายเจ้าของภาษาก็คือ การดูหนังและฝึกพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรง
                การดูหนังเป็นงานอดิเรกที่เด็กไทยหลายคนชื่อชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องในและต่างประเทศ แต่การที่เราจะดูหนังและได้ภาษานั้น เราควรมีวิธีการดูและเรียนรู้ทีละขั้นดังนี้ 1. เลือกหนังต่างประเทศที่เราชื่นชอบ เ เรื่อง ย้ำว่าต้องเป็นหนังต่างประเทศถ้าเป็นหนังสมัย                ใหม่ได้จะยิ่งดี เพราะภาษาที่เราฝึกนั้นจะเป็นภาษาที่สมัยใหม่ คนส่วนใหญ่หรือวัยรุ่นส่วนใหญ่จะนิยมใช้กันมาก ทำให้คำพูดของเรานั้นไม่ล้าหลัง เพราะภาษาสมันใหม่นั้นจะมีความน่าสนใจมาก 2. เปิดดูหนังเป็นพากย์ภาษาอังกฤษแต่มีซับไตเติลเป็นภาษาไทย หนังสำเนียงจากหนังและพร้อมๆกับดูความหมายของภาษาไทย  ฟังสำเนียงการพูดของแต่ละคน ฝึกไปเรื่อยๆครั้งแรกอาจจะไม่เข้าใจในภาษาอังกฤษ  แต่เราก็สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ ฝึกแบบนี้ทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งตามใจเราประมาณ 1 สัปดาห์ 3. เมื่อเราสามารถฟังรู้เรื่องและเข้าใจในเรื่องแล้วจากนี้ให้เราฟังแค่เสียงพากย์ภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียว และเอาซับไตเติลออก ลองสำรวจตัวเองว่าตัวเองสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยฟังจากเสียงหรือคำพูดที่นักแสดงพูดหรือไม่ หากเราไม่สามารถเข้าใจคำไหนให้หยุดหนังไว้สักครู่หนึ่งและจดคำศัพท์ที่เรายังไม่รู้โดยให้ทำวันละ 1 ครั้ง ซึ่งคนไหนที่ไม่รู้ให้หาความหมายจากดิกซานารี และจดจดไว้ให้ทำอย่างนี้หนึ่งสัปดาห์  4. ฝึกพูดประโยคที่เราจำไม่ได้โดนเลียนเสียงตามแบบนักแสดงวันละ 5-10 ประโยค เป็นเวลา 1 สัปดาห์ วิธีนี้ถึงแม้ว่าจะใช้เวลานานในการฝึกฝนแต่สามารถทำให้เราพูดได้คล่องและได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆอีกด้วย การฝึกสิ่งเหล่านี้มักต้องใช้เวลาเสมอไม่มีใครสามารถฝึกได้วันสองวันและพูดได้เลยจะต้องมีการฝึกฝนบ่อยๆสม่ำเสมอ นอกจากที่เราดูหนังแล้วยังมีอีกหลายๆวิธีที่เราสามารถฝึกฝนภาษาอังกฤษได้คือ การที่เราพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรง
                การที่เราจะพูดคุยภาษาอังกฤษได้ดีนั้นคือ การที่เราคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรง การฝึกกับเจ้าของภาษาโดยตรงนั้นเป็นเรื่องยากมากนอกเสียจาก การที่เราลงไปในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวชุกชุมการทำงานในโรงแรมตามเกาะต่างๆ อาชีพเหล่านี้ล้วนมีความชำนาญในด้านการพูดภาษาอังกฤษมาก เนื่องจากการที่พวกเขาได้พบปะพูดคุยกับชาวต่างชาติตลอดเวลาทำให้พวกเข้าสามารถเรียนรู้และสามารถซึมซับภาษาได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะมีความรู้ทางด้านภาษาที่น้อยก็ตาม แต่ฐานะที่เราเป็นนักศึกษาและไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาอย่างใกล้ชิดนั้น แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้กับครูชาวต่างชาติของพวกเรา ท่านเป็นผู้ค่อยสอนและสามารถทำความเข้าใจในสิ่งที่พวกเราต้องการสื่อได้ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เป็นชาวต่างชาติ เราสามารถที่จะเข้าไปทำความรู้จักพูดคุยกับท่าน อย่าอายที่จะพูดภาษาอังกฤษ ถ้าหากเราอายก็จะทำให้เราไม่กล้า ความกล้าที่จะทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ ก่อนอื่นเราพยายามพูดคุยทักทายคำง่ายๆ เช่น สวัสดีตอนเช้า พยายามที่จะทำให้เราไม่ตื่นเต้น ค่อยๆฝึกและพูดไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลกับแกรมม่าบางคนที่เรานึกคำศัพท์ไม่ออกเราสามารถใช้ลักษณะท่าทางแสดงไปก่อน ฝรั่งจะพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราสื่อสารเอง พยายามพูดคำศัพท์ง่ายๆ ก่อนเมื่อลดความกังวลพยายามพูดคุยอย่างสบายๆ ไม่ต้องเกริงและไม่ต้องตื่นเต้น เวลาอาจารย์ฝรั่งหรือชาวต่างชาติพูดออกมาพยายามฟังให้ชัดเจนและจับคอนเซบดูว่าเขาต้องการสื่อถึงอะไร หากคำพูดไหนที่เราไม่รู้เลยช่วยให้เขาอธิบายให้กว้างขึ้นทำให้เราสามารถเข้าใจได้มากขึ้น การที่เราฝึกฝนกับชาวต่างชาติบ่อยๆ นั้นนอกจากเราจะพูดคุยได้แล้ว เราสามารถเลียนแบบเสียงตามเจ้าของภาษาได้อีกด้วยสามารถทำให้เราพูดได้คล่องและชัดมากขึ้นด้วย

                การฝึกฝนการพูดนั้นไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ทั้งการดูหนังหรือการพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงนั้นล้วนเป็นวิธีที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคลว่าแต่ละคนมีวิธีการที่เรียนรู้ต่างกัน ถึงแม้แต่ละคนมีวิธีที่ค่างกันแต่ทุกคนก็มีจุดประสงค์เดียวกันคือ การที่ทุกคนต้องการที่จะพูดภาษาอังกฤษได้คล่องและถูกต้องชัดเจนโดยไม่อายจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่หลายคนต้องการที่จะเรียนรู้เพื่อสามารถช่วยให้ตนเองได้ดำรงชีวิตได้อย่างง่ายดายในการใช้ชีวิตในเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน ที่ทุกคนล้วนต้องมีความรู้ทางภาษาอังกฤษที่จะใช้ในการสื่อสาร การทำงานต่างๆ แต่การที่เราจะฝึกให้เด็กไทยสามารถพูดคุยภาษาอังกฤษได้ดีนั้น เราควรมีการปลูกฝั่งความคิดของเด็กไทยให้คิดว่าภาษาอังกฤษนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากเราเปิดใจรับมันพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ภาษาใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ก็จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้เร็วมากขึ้น และหลักสูตรการศึกษาประเทศไทยความมีการเปิดเสรีในด้านของภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ไม่จำกัด  เพื่อให้เด็กได้สามารถโชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ โดยไม่ปิดกั้นความคิดของเด็กให้เด็กแสดงออกได้ตามต้องการและพ่อแม่ก็เป็นแรงกำลังใจสำคัญที่จะทำให้เด็กเปิดรีบสิ่งใหม่ๆได้ง่ายมากขึ้นทักษะการพูดนั้นขึ้นอยู่กับความฝึกฝน เป็นประจำจะทำให้เราสมารถจดจำและเข้าใจอย่างชัดเจนมากขึ้นทักษะการพูดนั้นขึ้นอยู่กับความฝึกฝน ใครฝึกฝนมากเท่าไร จะทำให้เราสามารถพูดคล่องได้เร็วเท่านั้น ดังนั้น การที่เราจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีนั้น การฝึกฝนเป็นสิ่งที่จำเป็นมากหากเราพูดได้อย่างคลองแคล่วและชัดเจนแล้ว เราก็จะสามารถที่จะพูดคุยกับเจ้าของภาษาได้อย่างเข้าใจและไม่อายเจ้าของภาษาอีกด้วย และทำให้เรามีความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น