วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) (ครั้งที่ 8)

Learning Log (นอกห้องเรียน)
29/09/58
(ครั้งที่ 8)
                การอ่านเป็นทักษะที่เราฝึกฝนการตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่วิชาภาษาไทยจนถึงไปยังวิชาภาษาอังกฤษเด็กไทยได้รับการฝึกฝนในเรื่องของการอ่านตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลในการอ่าน ก-ฮ และภาษาอังกฤษ A-Z โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษ เด็กไทยได้รับการฝึกฝนท่องภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษต่อมาก็เป็นคำศัพท์ง่ายๆในภาษาอังกฤษ เช่น cat bat rat dog และอีกมากมาย ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารอันดับ1ของอาเซียน เป็นสิ่งที่สำคัญในการพูดสื่อสารหรือติดต่อกับผู้คนต่างๆนานา โดยเฉพาะการรับรู้ข่าวสารบ้านเมืองในปัจจุบันชาวต่างประเทศ ที่ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารและเป็นสื่อในการอ่าน เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแม้กระทั่งตำราเรียนต่างๆ การที่เราจะเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น คือการอ่านถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นต่างๆ ในการเรียนรู้คำศัพท์และประโยคต่างๆ การที่เราจะเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น คือการเริ่มต้นจากการอ่าน อ่านทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณา แผ่นพับ นิตยสารต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เราซึมซับภาษาอังกฤษๆได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง โดยเฉพาะเราสามารถที่จะอ่านได้คล่องแคล่ว ว่องไว และถูกต้อง หากเราอ่านบ่อยๆ เราสามารถที่จะเข้าใจคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น และมีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้นในสมอง และเรายังสามารถใช้คำศัพท์ได้ถูกต้องตามบทความอีกด้วย เราสามารถรู้การใช้คำในหนังสือพิมพ์การเขียนการ์ตูน การเขียนนิตยสาร หรือการเขียนแผ่นพับว่ามีการใช้คำอย่างไรในรูปแบบของภาษาอังกฤษ เพราะการใช้คำในภาษาอังกฤษในแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันมาก ผู้เรียนทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทักษะด้านการอ่าน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียบเรียงความคิด และการเรียนรู้การแสดง ความคิดเห็นในด้านต่างๆ และเราสามารถเข้าใจจุดประสงค์ของผู้แต่งหนังสือได้อีกด้วย เราจึงควรที่จะเรียนรู้ทักษะการฟังเพื่อนำไปใช้ในการเรียน การเพื่อให้ฟังอย่างเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคในการอ่าน
                เทคนิคในการพัฒนาทักษะการอ่านเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาการอ่านได้ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นทางลัดสำหรับผู้ที่ต้องการในการอ่านหนังสือต่างๆ อย่างเข้าใจ โดยมีเทคนิคง่ายดังนี้ ฝึกอ่านบทความและบทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งบทสนทนานั้นจะต้องอ่านด้วยความเร็วปกติที่ชาวต่างชาติอ่าน อย่าอ่านเร็ว หรือช้าเกินไปจะทำให้เราจับประเด็นยาก ซึ่งจะทำให้เราเคยชินกับการอ่านภาษาไทย ในแบบที่อ่านอย่างเร็วและเมื่อเจอชาวต่างชาติที่พูดด้วยอัตราความเร็วปกติ เราก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม การฝึกอ่านครั้งแรกๆเราควรฝึกอ่านหลายๆครั้ง เช่นการอ่าน นวนิยายต่างๆ เราควรเลือกหนังที่เราชอบ จะทำให้เราอยากอ่านมันมากขึ้น ให้อ่านหลายๆรอบ เช่น อ่านตอนที่1. สัก 3 รอบ จะทำให้เราเข้าใจและจำคำศัพท์ได้อีกด้วย โดยเทคนิคการอ่านภาษาอังกฤษจะมี 2 อย่างด้วยกันคือ เทคนิคการแบบ Skimming การอ่านแบบ Skim คือการดูภาพรวมกว้างๆ อย่างไวๆ และรวดเร็วมันจะช่วยให้เรารู้ว่า เรื่องที่เราอ่านจะเกี่ยวกับอะไร วิธีการอ่านแบบ Skim มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้ 1. อ่านชื่อเรื่อง 2. ดูรูปภาพ (ชื่อเรื่องและรูปภาพจะทำให้เราสามารถเข้าใจได้เยอะมาก) 3. อ่านหัวข้อใหญ่ที่ส่วนมากเป็นตัวหนา 4. อ่านบทนำสัก 1-2 ประโยค 5. อ่าน1-2 ประโยคของแต่ละย่อหน้าจะทำให้เรารู้ว่าแต่ละย่อหน้าพูดถึงอะไรเป็นประเด็นหลัก 6. ลองไปดูสรุปย่อหน้าสุดท้ายสักนิดว่าสรุปอย่างไรเมื่ออ่าน Skim แล้วจะทำให้เราสามารถเข้าใจเนื้อหาได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนการอ่านแบบ Scan การอ่านแบบ Scanning จะง่ายมากในการทำข้อสอบ Reading แค่ถูกเราดูโจทย์ Scan หาคำตอบในเนื้อหาที่เรา Skim ไปแล้วคร่าวๆ เทคนิคนี้จะสามารถช่วยให้เราอ่านหนังสือประเภทต่างๆได้ง่ายขึ้น

                การอ่านภาษาอังกฤษมี 2 ลักษณะ คือการอ่านแบบ Skimming และ Scanning การอ่านเป็นการรับรู้และท่าความเข้าใจในสิ่งที่อ่านอย่างมีจุดมั่งหมาย เช่นเดียวกับการฟัง แต่การอ่านจะใช้การรับรู้จากตัวอักษรที่ผ่านตา ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนให้ผู้เรียนเกิดความชำนาญและมีความสามารถเพิ่มพูนได้ ด้วยเทคนิควิธีการโดยเฉพาะครูผู้สอนที่จะมีเทคนิคในการสอนทักษะการอ่านให้แก่ผู้เรียนอย่างไร เพื่อให้การอ่านแต่ละลักษณะประสบผลสำเร็จ การอ่านจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กไทยควรฝึกฝน โดยเริ่มจากการอ่านที่อยู่รอบๆ ตัวเราจะทำให้เราเป็นคนใฝ่รู้  สามารถทำให้เราเข้าและเรียนรู้อย่างง่ายดายมากขึ้น การที่เราอานมากๆ นอกจากจะทำให้เรามีทักษะการอ่านที่ดีขึ้นแล้ว เรายังสามารถได้ความรู้และคำศัพท์ใหม่ๆตลอดเวลา จะทำให้อ่านและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งเหล่านี้หากเราฝึกฝนเป็นประจำจะทำให้เราอ่านภาษาอังกฤษอย่าง่ายดายและสามารถเข้าใจและนำปรับไปใช้ในการเรียน จำทำให้เราประสบความสำเร็จมากขึ้น และสามารถที่จะเรียนได้อย่างก้าวไกลในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น