Learning Log (นอกห้องเรียน)
20/10/58
(ครั้งที่ 11)
ศตวรรษที่ 21
มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการศึกษาอย่างมาก
โดยเฉพาะการศึกษาของไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ประชาคมอาเซียนจึงมีบทบาทเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องชาวเศรษฐกิจ การคมนาคม
และเรื่องการศึกษา
โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่มีบทบาทกับเด็กไทยการศึกษาในศตวรรษที่เน้นการเรียนรู้โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้
และครูจะต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ดูแลนักเรียน
ในปัจจุบันสื่อการเรียนการสอนก็มีมากมายทั้งในโลกโซเซียลเน็ตเวิร์คที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของเด็ก
ในประชาคมอาเซียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องของภาษา
เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เราต้องใช้ในการสื่อสารกันทั้ง 10 ประเทศ
ซึ่งเด็กไทยมีปัญหามากในการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
เพราะเด็กไทยไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เลย
ในขณะเดียวกันตัวดิฉันก็มีปัญหาในเรื่องของการใช้ภาษาอังกฤษ
ดิฉันไม่สามารถฟังภาษาอังกฤษออกเลย
ในการอบรมทุกครั้งอาจารย์และวิทยาการได้บอกอยู่เสมอว่า
การฟังเป็นทักษะเริ่มต้นที่เราสามารถเรียน๓อังกฤษให้เข้าใจได้เลย
ดิฉันมีปัญหาในเรื่องของทักษะการฟัง
ทำให้บางครั้งไม่สามารถเรียนภาษาอังกฤษให้เข้าใจได้เลย
ดิฉันเลยหาวิธีเพื่อฝึกทักษะในด้านของการฟัง
โดยการฝึกร้องเพลงสากลเพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษในด้านการฟัง
เพราะวิธีนี้ดิฉันคิดว่าสามารถช่วยให้ดิฉันสามารถพัฒนาทักษะการฟังได้ คือ
การฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง
การฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงเป็นวิธีที่ดิฉันคิดว่าเหมาะกับดิฉันมากที่สุด
เพราะดิฉันเป็นคนที่ชอบเบื่อง่าย หากได้ฟังเพลงก็สามารถจะช่วยลดอาการเบื่อได้
ซึ่งเพลงที่ดิฉันเลือกคือ The day you went away .
เป็นเพลงที่ดิฉันฟังแล้วรู้สึกสบายใจ จังหวะเพราะ เป็นเพลงสากลที่ฟังง่าย
ดิฉันเริ่มจากการฟังครั้งแรกโดยไม่ดูซับ ฟังแต่เนื้อร้องประมาณ 2 ครั้ง
หลังจากเปิดเพลงและมีซับภาษาอังกฤษข้างล่างร้องตามประมาณ 5 ครั้ง
โดยสองครั้งแรกจะสังเกตคำที่เราฟังไม่ออก
ซึ่งในเพลงจากมีหลายๆคำที่นักร้องจะร้องควบกันจึงทำให้ดิฉันไม่ออกว่าเป็นคำว่าอะไร
When I was dreaming bout you baby คำว่า was
dreaming นักร้องจะร้องควบกัน ดิฉันฟังออกเป็น sdream แต่พอมาดูซับมันเขียนว่า was dream พอ3 ครั้งหลัง ดิฉันฟังเพลงและเปิดซับไปพร้อมๆกันทำให้ฉันรู้สึกสนุกและเข้าใจในเนื้อหาและคำร้องของบทเพลงมากขึ้น
หลังจากนั้น 4 วัน ดิฉันฝึกร้องเพลงนี้วันละ 3-5 รอบ
วันแรกฉันฝึกร้องประมาณ 3
ครั้งก่อน โดยฟังและเปิดซับด้วยและดิฉันก็ร้องตามเพลงไปด้วยอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง
และดิฉันพยายามจำเนื้อร้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้
แต่ก็มีบางคำที่ดิฉันยังไม่สามรถจำได้ จึงต้องเปิดซับดูและร้องซ้ำอีกครั้ง
เป็นประโยคที่ว่า Why do we never know what we .’ ve got til it’ s gone . แล้วดิฉันฝึกท่องประโยคนี้ประมาณ10 รอบ
จนฝึกร้องอีก 2 ครั้งโดยดูซับตามเดิม
และร้องตามซับอีกครั้งทำให้ฉันมีความมั่นใจในการร้องเพลงมากขึ้นไปอีก
ซึ่งคำศัพท์บางคำที่เราออกเสียงไม่ถูกเราก็กล้าที่จะร้องออกมาดังๆ อย่างสนุกสนาน
วันที่สอง ดิฉันได้ฝึกร้องเพลง 5
ครั้ง โดยเปิดเพลงเสียงดังมากในห้องเพื่อเป็นการซึมซับจังหวะของเพลง โดยฝึกร้องเพลง
3 ครั้ง ครั้งแรกดูซับอีกครั้ง 2 ครั้ง หลังปิดซับ
ดิฉันสามารถร้องได้อย่างถูกต้องแต่ยังไม่ถูกต้องทั้งหมด
ซึ่งวันนี้ดิฉันได้หาความหมายของคำศัพท์ที่อยู่ในเพลงอีกด้วย
ซึ่งบางคำก็เป็นตัวย่อที่ส่วนนักร้องจะนำมาดัดแปลงลงในเนื้อร้องโดยมีคำว่า Bout =about เกี่ยวกับ , crazy (adj) =บ้า, คลั่ง , blond(adj)=ตาบอด,โง่ suffering (v) = ทน,ทนทุกข์ ,stupid (adj) = โง่, งี่เง่า , lonely = เหงา,หว่าเหว่
, doorway (n) =
ทางเข้าประตู , case (n)= กระเป๋า , tears (n) =น้ำตา , special (adj) พิเศษ ทำให้ดิฉันได้ความหมายของคำศัพท์และสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคมากขึ้นอีกด้วย
วันที่สาม
ดิฉันได้ฝึกร้องเพลงโดยปิดซับทั้งหมด
ดิฉันเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น
ซึ่งบางประโยคที่ดิฉันชอบ ดิฉันสามารถพูดและร้องเป็นหลายๆครั้งต่อวันจนดิฉันสามารถนำประโยคนั้นมาแปลงเพื่อใช้พูดในบริบทอื่นๆ
และดิฉันก็ได้เอาประโยคที่ดิฉันชอบมาขึ้นสเตตัสเฟสบุ๊ควันละ1 ครั้ง
และพยายามหาคำอื่นๆมาดัดแปลงและนำไปพูดกับเพื่อนๆ
ซึ่งทำให้เราสามารถกล้าพูดได้มากขึ้น
และทำให้เราเรียนรู้การสร้างประโยคกับต่างๆอีกด้วย
วันที่สี่ ดิฉันสามารถร้องเพลงได้อย่างคล่องแคล่วและสนุกสนานมาก
เพราะดิฉันสามารถจำบทเพลงได้ทั้งประโยคและดิฉันสามารถฟังภาษาอังกฤษในเพลงของแต่ละคำได้อย่างชัดเจนทำให้ดิฉันสนุกสนาน
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ท้าทาย
จนทำให้ดิฉันสามารถจำโครงสร้างของประโยคและสามารถจำคำศัพท์ในเพลงได้ทุกคนโดยเฉพาะคำที่ดิฉันเคยเปิดหาความหมาย
ดิฉันสามารถนำคัศัพท์เหล่านี้ ไปใช้ในการแต่งเนื้อเรื่องและเขียน Diary ได้
การฟังเพลงนี้ทำให้ดิฉันพยายามขวนขวายหาเพลงใหม่ๆ เพิ่มเติมมากขึ้นอีก
หารฟังเพลงเพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องที่สนุกสนาน
หากเราสามารถทำได้แล้วครั้งหนึ่ง เราก็มีความหมายในการทำอีกต่อไป
เพลงเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ เพราะมันสามารถทำให้เราผ่อนคลายกับทุกสิ่งหากเรานำสิ่งที่รักมาพร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจะทำให้เราได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้
เพราะในบทเพลงทั้งหมดที่เราร้องนั้นจะมีคำศัพท์ทำให้เราต้องเปิดDictionaryเพื่อหาความหมายของคำศัพท์เหล่านั้น
มันทำให้เราได้คำศัพท์ใหม่ๆที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
การฝึกภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเลย
หากเรามีความมุ่งมั่น พยายามและพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับมัน
โดยเริ่มจากสิ่งที่เราชอบ เช่น การดูหนัง การฟังเพลง เพราะการที่เราเริ่มจากทำจากสิ่งที่เราชอบจะสามารถทำให้เราไปได้อย่างรวดเร็วเพราะการเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช้เฉพาะในตำราอย่างเดียว
ปัจจุบันสื่อเยอะแยะมากมายที่สามารถเป็นบทเรียน ที่เราสามารถเรียนนอกสถานที่ได้
แค่ขึ้นอยู่กับว่าผู้เรียนให้ความสำคัญและให้เวลากับมันมากแค่ไหน
การฝึกฝนการเรียนด้านภาษานั้นต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
และถ้าหากต้องการจะให้ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วขึ้น
แต่ละคนก็จะมีเคล็ดลับหรือเทคนิคของตนเองเพื่อในการพัฒนาตนเองในการเรียนภาษาอังกฤษ
ดังนั้นการฟังจึงเป็นทักษะที่สำคัญที่เริ่มต้นในการพัฒนาทักษะอื่นๆ
คนเราจะเก่งได้นั้นต้องเริ่มจากการฟัง การฟังวิทยุ
การฟังสื่อต่างๆโดยเฉพาะการฟังเพลงล้วนให้ประโยชน์และความรู้เป็นอย่างมากจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนภาษาอังกฤษ
การฟังจึงเป็นทักษะแรกที่ผู้ปกครองหรือครูผู้สอนจะต้องให้ความสำคัญเพื่อให้เด็กสามารถรับรู้จากสิ่งรอบข้างและสามารถนำทักษะการฟังไปพัฒนาทักษะอื่นๆได้ต่อไปในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น