วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) (ครั้งที่ 11)

Learning Log (นอกห้องเรียน)
20/10/58
(ครั้งที่ 11)
                ศตวรรษที่ 21 มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการศึกษาอย่างมาก โดยเฉพาะการศึกษาของไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ประชาคมอาเซียนจึงมีบทบาทเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องชาวเศรษฐกิจ การคมนาคม และเรื่องการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่มีบทบาทกับเด็กไทยการศึกษาในศตวรรษที่เน้นการเรียนรู้โดยให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ และครูจะต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ดูแลนักเรียน ในปัจจุบันสื่อการเรียนการสอนก็มีมากมายทั้งในโลกโซเซียลเน็ตเวิร์คที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของเด็ก ในประชาคมอาเซียนได้ให้ความสำคัญในเรื่องของภาษา เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เราต้องใช้ในการสื่อสารกันทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งเด็กไทยมีปัญหามากในการใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพราะเด็กไทยไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้เลย ในขณะเดียวกันตัวดิฉันก็มีปัญหาในเรื่องของการใช้ภาษาอังกฤษ ดิฉันไม่สามารถฟังภาษาอังกฤษออกเลย ในการอบรมทุกครั้งอาจารย์และวิทยาการได้บอกอยู่เสมอว่า การฟังเป็นทักษะเริ่มต้นที่เราสามารถเรียน๓อังกฤษให้เข้าใจได้เลย ดิฉันมีปัญหาในเรื่องของทักษะการฟัง ทำให้บางครั้งไม่สามารถเรียนภาษาอังกฤษให้เข้าใจได้เลย ดิฉันเลยหาวิธีเพื่อฝึกทักษะในด้านของการฟัง โดยการฝึกร้องเพลงสากลเพื่อเป็นการฝึกภาษาอังกฤษในด้านการฟัง เพราะวิธีนี้ดิฉันคิดว่าสามารถช่วยให้ดิฉันสามารถพัฒนาทักษะการฟังได้ คือ การฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง
                การฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงเป็นวิธีที่ดิฉันคิดว่าเหมาะกับดิฉันมากที่สุด เพราะดิฉันเป็นคนที่ชอบเบื่อง่าย หากได้ฟังเพลงก็สามารถจะช่วยลดอาการเบื่อได้ ซึ่งเพลงที่ดิฉันเลือกคือ The day you went away . เป็นเพลงที่ดิฉันฟังแล้วรู้สึกสบายใจ จังหวะเพราะ เป็นเพลงสากลที่ฟังง่าย ดิฉันเริ่มจากการฟังครั้งแรกโดยไม่ดูซับ ฟังแต่เนื้อร้องประมาณ 2 ครั้ง หลังจากเปิดเพลงและมีซับภาษาอังกฤษข้างล่างร้องตามประมาณ 5 ครั้ง โดยสองครั้งแรกจะสังเกตคำที่เราฟังไม่ออก ซึ่งในเพลงจากมีหลายๆคำที่นักร้องจะร้องควบกันจึงทำให้ดิฉันไม่ออกว่าเป็นคำว่าอะไร When I was dreaming bout you baby คำว่า was dreaming นักร้องจะร้องควบกัน ดิฉันฟังออกเป็น sdream แต่พอมาดูซับมันเขียนว่า was dream พอ3 ครั้งหลัง ดิฉันฟังเพลงและเปิดซับไปพร้อมๆกันทำให้ฉันรู้สึกสนุกและเข้าใจในเนื้อหาและคำร้องของบทเพลงมากขึ้น หลังจากนั้น 4 วัน ดิฉันฝึกร้องเพลงนี้วันละ 3-5 รอบ
                วันแรกฉันฝึกร้องประมาณ 3 ครั้งก่อน โดยฟังและเปิดซับด้วยและดิฉันก็ร้องตามเพลงไปด้วยอาจจะถูกบ้างผิดบ้าง และดิฉันพยายามจำเนื้อร้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะจำได้ แต่ก็มีบางคำที่ดิฉันยังไม่สามรถจำได้ จึงต้องเปิดซับดูและร้องซ้ำอีกครั้ง เป็นประโยคที่ว่า Why do we never know what we .’ ve got til it’ s gone .  แล้วดิฉันฝึกท่องประโยคนี้ประมาณ10 รอบ จนฝึกร้องอีก 2 ครั้งโดยดูซับตามเดิม และร้องตามซับอีกครั้งทำให้ฉันมีความมั่นใจในการร้องเพลงมากขึ้นไปอีก ซึ่งคำศัพท์บางคำที่เราออกเสียงไม่ถูกเราก็กล้าที่จะร้องออกมาดังๆ อย่างสนุกสนาน
                วันที่สอง ดิฉันได้ฝึกร้องเพลง 5 ครั้ง โดยเปิดเพลงเสียงดังมากในห้องเพื่อเป็นการซึมซับจังหวะของเพลง โดยฝึกร้องเพลง 3 ครั้ง ครั้งแรกดูซับอีกครั้ง 2 ครั้ง หลังปิดซับ ดิฉันสามารถร้องได้อย่างถูกต้องแต่ยังไม่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งวันนี้ดิฉันได้หาความหมายของคำศัพท์ที่อยู่ในเพลงอีกด้วย ซึ่งบางคำก็เป็นตัวย่อที่ส่วนนักร้องจะนำมาดัดแปลงลงในเนื้อร้องโดยมีคำว่า Bout =about เกี่ยวกับ , crazy (adj) =บ้า, คลั่ง , blond(adj)=ตาบอด,โง่ suffering (v) = ทน,ทนทุกข์ ,stupid (adj) = โง่, งี่เง่า , lonely = เหงา,หว่าเหว่ , doorway (n) = ทางเข้าประตู , case (n)= กระเป๋า , tears (n) =น้ำตา , special (adj) พิเศษ ทำให้ดิฉันได้ความหมายของคำศัพท์และสามารถเข้าใจโครงสร้างประโยคมากขึ้นอีกด้วย
                วันที่สาม ดิฉันได้ฝึกร้องเพลงโดยปิดซับทั้งหมด ดิฉันเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งบางประโยคที่ดิฉันชอบ ดิฉันสามารถพูดและร้องเป็นหลายๆครั้งต่อวันจนดิฉันสามารถนำประโยคนั้นมาแปลงเพื่อใช้พูดในบริบทอื่นๆ และดิฉันก็ได้เอาประโยคที่ดิฉันชอบมาขึ้นสเตตัสเฟสบุ๊ควันละ1 ครั้ง และพยายามหาคำอื่นๆมาดัดแปลงและนำไปพูดกับเพื่อนๆ ซึ่งทำให้เราสามารถกล้าพูดได้มากขึ้น และทำให้เราเรียนรู้การสร้างประโยคกับต่างๆอีกด้วย
                วันที่สี่ ดิฉันสามารถร้องเพลงได้อย่างคล่องแคล่วและสนุกสนานมาก เพราะดิฉันสามารถจำบทเพลงได้ทั้งประโยคและดิฉันสามารถฟังภาษาอังกฤษในเพลงของแต่ละคำได้อย่างชัดเจนทำให้ดิฉันสนุกสนาน ซึ่งมันเป็นอะไรที่ท้าทาย จนทำให้ดิฉันสามารถจำโครงสร้างของประโยคและสามารถจำคำศัพท์ในเพลงได้ทุกคนโดยเฉพาะคำที่ดิฉันเคยเปิดหาความหมาย ดิฉันสามารถนำคัศัพท์เหล่านี้ ไปใช้ในการแต่งเนื้อเรื่องและเขียน Diary ได้ การฟังเพลงนี้ทำให้ดิฉันพยายามขวนขวายหาเพลงใหม่ๆ เพิ่มเติมมากขึ้นอีก
                หารฟังเพลงเพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องที่สนุกสนาน หากเราสามารถทำได้แล้วครั้งหนึ่ง เราก็มีความหมายในการทำอีกต่อไป เพลงเป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ เพราะมันสามารถทำให้เราผ่อนคลายกับทุกสิ่งหากเรานำสิ่งที่รักมาพร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจะทำให้เราได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้ เพราะในบทเพลงทั้งหมดที่เราร้องนั้นจะมีคำศัพท์ทำให้เราต้องเปิดDictionaryเพื่อหาความหมายของคำศัพท์เหล่านั้น มันทำให้เราได้คำศัพท์ใหม่ๆที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย

                การฝึกภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเลย หากเรามีความมุ่งมั่น พยายามและพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับมัน โดยเริ่มจากสิ่งที่เราชอบ เช่น การดูหนัง การฟังเพลง เพราะการที่เราเริ่มจากทำจากสิ่งที่เราชอบจะสามารถทำให้เราไปได้อย่างรวดเร็วเพราะการเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช้เฉพาะในตำราอย่างเดียว ปัจจุบันสื่อเยอะแยะมากมายที่สามารถเป็นบทเรียน ที่เราสามารถเรียนนอกสถานที่ได้ แค่ขึ้นอยู่กับว่าผู้เรียนให้ความสำคัญและให้เวลากับมันมากแค่ไหน การฝึกฝนการเรียนด้านภาษานั้นต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และถ้าหากต้องการจะให้ประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วขึ้น แต่ละคนก็จะมีเคล็ดลับหรือเทคนิคของตนเองเพื่อในการพัฒนาตนเองในการเรียนภาษาอังกฤษ ดังนั้นการฟังจึงเป็นทักษะที่สำคัญที่เริ่มต้นในการพัฒนาทักษะอื่นๆ คนเราจะเก่งได้นั้นต้องเริ่มจากการฟัง การฟังวิทยุ การฟังสื่อต่างๆโดยเฉพาะการฟังเพลงล้วนให้ประโยชน์และความรู้เป็นอย่างมากจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนภาษาอังกฤษ การฟังจึงเป็นทักษะแรกที่ผู้ปกครองหรือครูผู้สอนจะต้องให้ความสำคัญเพื่อให้เด็กสามารถรับรู้จากสิ่งรอบข้างและสามารถนำทักษะการฟังไปพัฒนาทักษะอื่นๆได้ต่อไปในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น