Learning Log (นอกห้องเรียน)
6/10/58
(ครั้งที่ 9
)
การเรียนภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ยากสำหรับนักเรียนบางคนที่ไม่เข้าใจและไม่มีพื้นฐานในทักษะต่างๆหลายคน
มีปัญหากับภาษาอังกฤษของตนเอง ยิ่งเรียนเท่าไหร่ก็ไม่เคยเข้าใจเนื้อหา
แล้วพยายามที่จะฝึกฝน บางครั้งก็ไม่ได้เต็มศักยภาพของตนเอง
การศึกษาภาษาอังกฤษไม่ได้จำกัดอยู่ในเฉพาะตำราเรียนห้องเรียนแต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งต่างๆรอบข้าง
เราฝึกภาษาอังกฤษจากสิ่งรอบรอบตัวเราได้แนวทางหนึ่งที่จะทำให้ทุกคนอยู่กับภาษาอังกฤษได้ทุกวันทุกเวลา
คือการฝึกฝนภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลหรือเพลงภาษาอังกฤษ
ผ่านหนังหรือสื่อเทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะการฟังเพลงเป็นสิ่งที่พวกเราทำอยู่เป็นประจำทุกวันโดยการฟังนั้นจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาภาษาได้อย่างรวดเร็ว
และเราสามารถทำด้วยตนเองได้
สามารถประหยัดเวลาและประหยัดเงินได้อีกด้วยเพราะในปัจจุบันสื่อเทคโนโลยีต่างๆในรูปแบบต่างๆล้วนเป็นสิ่งจำเป็น
ต้องใช้และขาดมันไม่ได้
นอกจากมันจะช่วยให้เราผ่อนคลายสามารถให้ความบันเทิงแก่เราได้อีกด้วยเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อเทคโนโลยีเหล่านี้โดยการประยุกต์การฟังเพลงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเราในการฝึกภาษาอังกฤษ
การฟังเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา
การฝึกด้วยเพลงคือวิธีหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับต้นๆเพราะ นอกจาก
จะได้ฟังสำนวนภาษาและเรียนรู้วิธีออกเสียงแล้วเพลงยังทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินและโฟกัสกับการเรียนรู้ได้นานขึ้นด้วย
ดิฉันจึงได้เลือกใช้วิธีนี้เป็นวิธีในการฝึกทักษะการฟังของดิฉันโดยดิฉันได้ปฏิบัติตามเทคนิคเคล็ดลับ
7 ข้อในการฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงการศึกษา เคล็ดลับ 7
ข้อในการฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลง
เคล็ดลับ 7
ข้อในการฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงมีดังนี้ 1
รู้จักแหล่งหาเพลงดีๆแน่นอนทุกคนต้องรู้จักเว็บแชร์วิดีโอชื่อดังโดยเฉพาะ youtube และวิดีโอ 2 เว็บไซต์นี้มีเพลงมากมาย
ดีๆมีให้เลือกฟังอย่างไม่หวาดไม่ไหวแนะนำว่าคนที่ยังฟังไม่ค่อยคล่องร้องหาชื่อเพลงโดยใส่คีย์บอร์ดว่า
subtitle หรือ lyrics ต่อท้าย
การมีเนื้อร้องให้เราร้องตาม ไปทีละท่อนจะช่วยให้การหัดฟังเพลงภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น
2
เลือกเพลงให้เหมาะสมเลือกเพลงที่ชอบจะทำให้เราจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนได้นานเนื้อเพลงที่ภาษาไม่ง่ายหรือยากจนเกินไป
เนื้อเพลงเป็นคำที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ระวังการออกเสียงที่ไม่ชัดเจนของนักร้องด้วยอย่างพวกเพลงร็อคเมทัล อาจจะไม่ค่อยเหมาะในการนำมาใช้ฝึกภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่
ควรเลือกเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวพอให้นึกภาพตามได้หากเริ่มฝึกแบบมีพื้นฐานน้อยมาก
อาจลองเริ่มจากเพลงสำหรับเด็กควรเริ่มจากเพลงป๊อปเพราะเพลงใหญ่เพราะเพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก
ความโรแมนติก ใช้คำศัพท์ง่ายๆๆ จากนั้นเมื่อชำนาญมากขึ้นจึงค่อยแตกสาขาไปฝึกจากเพลงประเภทอื่นที่กว้างขึ้น
3
ฝึกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนการอ่านเนื้อเพลงตามไปด้วยจะทำให้เข้าใจความหมายของเพลงและจดจำคำศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น
แต่การฟังเพลงเล็กๆควรลองฟังแบบไม่รู้เนื้อเพลงก่อนแล้วพยายามเขียนคำศัพท์หรือประโยคเท่าที่พอจับใจความได้ออกมาให้ได้มากที่สุด
จากนั้น จึงค่อยฟังซ้ำด้วยเปิดเนื้อเพลงตามไปด้วย 4
ร้องตามอย่างเต็มเสียงขั้นตอนนี้ถ้าไม่มั่นใจในเสียงของตนเองแนะนำให้สุกร้องเวลาอยู่คนเดียวจะดีที่สุด
จะได้ไม่รบกวนคนรอบข้างด้วยค่ะเวลาร้องตามขอให้ร้องอย่างเต็มเสียงและขยับปากอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฝึกกล้ามเนื้อริมฝีปากเพราะภาษาอังกฤษมีการใช้กล้ามเนื้อเล็กฝีปากมากกว่าภาษาไทยฝึกบ่อยๆจะทำให้สำเนียงเราใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น
5
พยายามร้องเพลงจากความจำท่านนี้เหมาะสำหรับคนที่ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองมาซักระยะจนชำนาญประมาณหนึ่ง
เริ่มจะจำเนื้อร้องบางท่อนของเพลงได้บ้างแล้ว
ว่างๆก็ลองหัดทำเพลงเป็นภาษาอังกฤษแบบไม่รู้เนื้อร้อง ดูนะคะ
จะช่วยให้เราคุ้นชินกับการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น 6
ฟังเพลงสลับไปสลับมาจากขั้นตอนที่แนะนำมาทั้งหมดไม่จำเป็นต้องเลือกมา 1
เพลงและโฟกัสในการฝึกเพลงนั้นซ้ำซ้ำอยู่แค่เพลงเดียวในรอบแรกคุณอาจจะฟังแบบผ่านผ่านแล้วดูเนื้อตามไปหลายๆเพลงก่อน
จากนั้นจึงค่อยกลับมาฟังเพลงแรกและทบทวนคำศัพท์ 7
ค้นหาเพลงใหม่ที่ระดับยากขึ้นเพื่อการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพ
ควรพัฒนาตนเองด้วยการเลือกเพลงที่ระดับยากขึ้นซึ่งจะทำให้สำนวนและคำคำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นด้วย
ถ้าไม่รู้ว่าเพลงจะเลือกเพลงยังไงดี Fluentu ที่สามารถช่วยได้ค่ะ
การฝึกในทักษะการฟังด้านภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีนั้นไม่จำเป็นต้องฝึกวันละหลายชั่วโมงแต่สิ่งสำคัญที่การฝึกด้วยใช้ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมออาจจะฝึกแค่วันละ
1-2 ชั่วโมงแต่ต้องอย่าทิ้งเป้าหมายกลางคันนะคะหากไม่ท้อถอยไม่นานเกินรอต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนนอกจากที่เราจะฟังได้คล่องแคล่วแล้วเราสามารถที่จะร้องเพลงตามต้นฉบับได้อย่างไพเราะและถูกต้องอีกด้วย
ที่สำคัญเราสามารถได้คำศัพท์ที่เยอะแยะมากมายอย่างไม่รู้ตัว และสามารถนำคำศัพท์หรือประโยคมาใช้ในชีวิตประจำวันและการเรียนการสอนต่อไปในอนาคต การฝึกภาษาอังกฤษด้วยเพลงนั้นเราสามารถฝึกได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่เรามี
เราสามารถเข้าใจในภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นและสามารถฟังได้อย่างคล่องแคล่ว
ดังนั้นเทคนิควิธีการนี้เป็นเทคนิคที่ดีสำหรับการที่จะทำให้เรามีความสามารถและมีศักยภาพในทักษะการฟังที่ดียิ่งขึ้น
และเราสามารถฟังได้อย่างคล่องแคล่วและสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเรียนทุกคนที่จะพัฒนาสิ่งเหล่านี้ในการศึกษาหาความรู้ต่อไปในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น