วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน)(ครั้งที่ 7)

Learning Log (นอกห้องเรียน)
22/09/58
(ครั้งที่ 7)
                ในปัจจุบันโลกของเรากำลังพัฒนาในด้านต่างๆ มากมาย ประเทศไทยเองก็เช่นกัน โลกของเรากำลังเข้าสู้ยุคที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างกว้างขวางดังนั้นในการสื่อสารกันระหว่างบุคคล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีตัวกลางในการส่งสารระหว่างกัน นั่นก็คือ ภาษา ภาษามีความจำเป็นและเป็นภาษาหลักของโลก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่คนทั่วโลกใช้ในการติดต่อสื่อสารกันและกันประเทศไทยก็ได้มีการพัฒนาภาษาอังกฤษมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้เด็กไทยได้มีทักษะด้านทางภาษาอังกฤษที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะทักษะการฟัง ที่เป็นสิ่งที่มีปัญหามากที่เกิดขึ้นกับนักเรียนทุกระดับชั้นสาเหตุสำคัญคือ การที่เราไม่รู้ความหมายของศัพท์และฟังคำศัพท์ที่ชาวต่างชาติพูดไม่เข้าใจการฟังจึงเป็นบทบาทที่สำคัญมากในการเรียนภาษาอังกฤษ การฟังจะทำให้เราเข้าใจจุดมุ่งหมายของการสื่อสารมากขึ้น ว่าผู้ส่งสารต้องการสื่ออะไร หากเราสามารถเจ้าใจก็จะสามารถที่จะรู้จุดประสงค์และจุดมุ่งหมายของผู้พูดได้ การฟังภาษาอังกฤษถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดและพัฒนายากที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของคนไทยส่วนใหญ่ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดของการเรียนภาษาอังกฤษของคนไทย ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีฝึกฝนเพื่อพัฒนาตนเองสามารถที่จะเรียนรู้และฟังภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการฝึกฟังภาษาอังกฤษให้ได้ผลเร็ว
                การฝึกฟังภาษาอังกฤษให้ได้ผลรวดเร็ว มีเทคนิคดังนี้ 1. ฝึกฟังจากเทป บทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งบทสนทนานั้นจะต้องพูดด้วยความเร็วปกติที่ชาวต่างชาติพูด อย่าฝึกฟังจากเทปที่พูดช้ากว่าการพูดปกติของเรา เนื่องจากทำให้เราเคยชินกับการฟังภาษาอังกฤษ แบบที่พูดซ้ำๆเมื่อเราเจอชาวต่างชาติที่พูดด้วยอัตราเร็วปกติ เราก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม 2. การฝึกฟังครั้งแรกๆ ความเริ่มฟังครั้งที่ 5-10 ประโยค (อย่าฟังประโยคเยอะเกินไปจนไม่สามารถจะจำประโยคเหล่านี้ได้) 3. ขณะที่ฝึกภาษาอังกฤษต้องมี Script และหากว่าคำใดที่เราเคยออกเสียงไม่เหมือนเราหรือเราฟังไม่รู้เรื่องแม้จะมี Script ให้หยุดเทป และจดลงใน Script ว่าเสียงที่เราได้ยินนั้นคืออะไร รอบที่2 และ3 ออกเสียงตาม รอบที่4-6 ลองฟังแบบหลับตาโดยไม่มี Script  5. ช่วงแรก ขอให้ฝึกฟังประโยคเดิมๆด้วยวิธีข้างต้นสัปดาห์ละ2-3 ครั้ง ฝึกทุกวันได้ยิ่งดีและจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนประโยคให้มากขึ้นเป็น 15-20 ประโยค ต่อการฝึกฟังแต่ละครั้งตัวอย่างเช่นที่ข้าพเจ้าได้ฝึกคือ การฝึกการฟังจากบทสนทนาในนิทาน ตอกแรกข้าพเจ้าก็ฟังประมาณ 2-3 รอบ และฟังประโยคแรกๆ ที่ง่ายๆ ให้เข้าใจก่อน และค่อยฟังประโยคถัดไป ในขณะที่ฟังนั้นข้าพเจ้าก็มีตัว Script ของเรื่องแต่เป็นของตัวละครที่ตัวละครแต่ละตัวพูดสนทนากัน ตอกแรกที่ข้าพเจ้าก็มีตัว Script ของเรื่องแต่เป็นของตัวละครที่ตัวละครแต่ละตัวพูดสนทนากัน ตอนแรกที่ข้าพเจ้าฟังมีบางคน ซึ่งหลายคำมากที่ข้าพเจ้าฟังไม่ออกเลยพอดูสคริปก็สามารถอ่านคำนั้นได้แต่ไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้าจึงจดจำคำอ่านที่ถูกต้องลงในคลิปและอ่านตามอีก 2-3 รอบ หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็อ่านออกเสียงตามบทสนทนาในนิทานหลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ลองฝึกฟังโดยไม่มี Script ประมาณ 2-3 รอบ และฝึกอย่างนี้ทุกๆวัน ประมาณ 1 อาทิตย์ ข้าพเจ้าสามารถซึบซับและฟังอย่างเข้าใจในระดับหนึ่ง

                ดังนั้น การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดที่ต้องได้รับการพัฒนาก่อนเป็นอันดับแรก การฟังมากๆซ้ำๆ นอกจากจะทำให้เรามีทักษะการฟังที่ดีมากขึ้นแล้ว ยังทำให้สามารถพูดได้ เมื่อเราพูดประโยคเหล่านั้นออกมาได้แล้ว เราก็หลุดออกจากกับติดไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้แล้ว นั้นแปลว่าเราสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างอัตโนมัติ หลังจากนั้นจึงค่อยมากศึกษาคำแปลของประโยคเหล่านั้นให้มีมากขึ้น ลำดับต่อไปจึงไปฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษเหล่านั้นให้เร็วขึ้น เราก็สามารถพูดภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติ จากจิตใต้สำนึกโดยไม่ติดขัดแล้ว การฟังภาษาอังกฤษถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด และพัฒนายากที่สุด หากเราลองนึกดูว่า แล้วภาษาไทยที่เราพูด อ่านและเขียนได้ในปัจจุบันนั้นมีพื้นฐานมาจากอะไร หากไม่ใช่มาจากการฟัง ฟังจนเข้าใจในสิ่งที่เราได้รับฟังมา แล้วเลียนเสียงนั้นจนพูดได้ หลังจากนั้น จึงเริ่มเรียนการเขียนแล้วจึงตามาด้วยการอ่าน เช่นเดียวกัน หากเราได้การฟังภาษาอังกฤษหลายๆรอบ บ่อยๆซ้ำๆ จนจำขึ้นใจแล้ว หากเราสามารถฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องและเข้าใจโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น