วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน) (ครั้งที่ 1 )

Learning Log (นอกห้องเรียน)
11/08/58
(ครั้งที่ 1 )
                ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญในการเรียนรู้ในปัจจุบัน   ประเทศไทยตอนนี้เป็นยุคที่ภาษาอังกฤษกำลังเฟื่องฟู ในฐานะที่ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ภาษาอังกฤษมีความน่าสนใจมากในปัจจุบัน  เนื่องจากหลายๆ คนเข้ามาให้ความสำคัญกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น ทุกวันนี้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่ทุกคนจำเป็นต้องพูดเพื่อสื่อสารให้ได้ ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารรวมทั้งธุรกิจหลายๆ อย่างที่มาลงทุนในประเทศส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจต่างประเทศ และมักจะให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการสื่อสารมากขึ้น มนุษย์เราค่อยๆ เรียนรู้วิธีการใช้ภาษาในการสื่อสารในประจำวันมากยิ่งขึ้นมาทีละเล็กละน้อยตามความจำเป็นของการใช้ภาษา และมีการฝึกเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันก็ย่อมแตกต่างกันไป ตามกาลเทศะ บุคคล อาชีพ เพศ วัย หรือแม้กระทั่งลักษณะทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ  จะมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ  การเรียบเรียงคำเพื่อให้เหมาะสมกับสิ่งเหล่านี้   และเพื่อให้ตรงวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้เกิดความแตกต่าง ทำให้เกิดภาษาที่แตกต่างกันในแต่ละอาชีพเพื่อที่จะเรียนรู้ใช้ภาษาให้ถูกกับสังคมนั้นๆ อย่างเข้าใจ  และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ การเรียนรู้ภาษานั้นมีความแตกต่างจากการเรียนรู้วิชาอื่นๆ เป็นอย่างมาก  การเรียนรู้ภาษานั้นจะต้องควบคู่ระหว่างความรู้และทักษะ เพื่อให้กระบวนการมีประสิทธิภาพสูงสุดที่จะเรียนรู้ภาษาได้มากยิ่งขึ้น   ความรู้และทักษะนั้นเป็นกระบวนการที่สำคัญที่จะทำให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายในการใช้ภาษาได้  และยังมีกลยุทธ์ต่างๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ในการฝึกภาษาได้ดียิ่งขึ้น โดยกลยุทธ์ทั้งหมดนั้น สามารถทำให้ผู้เรียนเข้าใจและเรียนรู้รวมไปถึงการแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองได้ ในการพัฒนาความรู้ทางด้านภาษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
                การที่เราจะเชียวชาญในเรื่องของภาษานั้นเพื่อให้ประสบความสำเร็จ กระบวนการที่สำคัญในการที่จะต้องใช้อันแรกคือ ความรู้ ความรู้ในการเรียนนั้นเป็นภาคทฤษฎีของเนื้อหาทั้งหมด ความรู้ คือ ความเข้าใจในเนื้อหา เข้าใจในสิ่งบางสิ่งหรือเรื่องบางเรื่อง รวมไปถึงความสามารถในการนำสิ่งนั้นไปใช้เพื่อเป้าหมายบางประการ  ความรู้เป็นขั้นแรกของพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถ ความรู้เป็นหนึ่งขั้นตอนของการเรียนรู้ โดยในความรู้นั้นได้ประกอบด้วยหลายอย่าง เช่น ความหมาย ข้อเท็จจริง ทฤษฎี กฎ โครงสร้าง สิ่งเหล่านี้คือเนื้อหาที่เป็นเกี่ยวกับความรู้  ผลของสิ่งเหล่านี้ที่แสดงออกมาคือความเข้าใจ โดยความเข้าใจของผู้เรียนนั้นได้แสดงผลออกมาในรูปของการแปล หรือการโต้ตอบอย่างถูกต้องและเข้าใจ หากทุกคนสามารถมีความรู้อย่างครบถ้วนสมบรูณ์ การเรียนภาษาเพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลจึงเป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะทำให้ผู้เรียนเป็นผู้เชียวชาญทางด้านภาษา  เช่นการที่เราเข้าใจวิชาที่เราเรียน  อาจารย์สอนในเนื้อหา  ความหมาย  ทฤษฎี และความรู้ต่างๆ  รวมไปถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นทฤษฎีที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อที่จะเข้าใจในการเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น  แต่บางครั้งหากใช้ความรู้เพียงอย่างเดียว  อาจทำให้ผู้ศึกษานั้นไม่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้อย่างแท้จริง การฝึกทักษะนั้นจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ผู้เรียนภาษานั้น สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่างๆได้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ในการใช้ภาษาอย่างแท้จริง
                ทักษะเป็นอย่างหนึ่งอย่างที่เป็นกระบวนการที่สำคัญของการเรียนรู้ภาษา ทักษะหรือความชำนาญที่เกิดจากการฝึกฝน  ถือว่าเป็นภาคปฏิบัติ ทักษะเป็นความสามารถขั้นพื้นฐานของบุคคลในการปรับตัวและเพื่อที่จะสามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ที่อยู่รอบๆตัวทั้งในสภาพสังคมปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาษาอังกฤษนั้นมีหลากหลายทักษะในการเรียนรู้ คือทักษะการพูด  ทักษะการอ่าน  ทักษะการฟัง  และทักษะการเรียน  โดยแต่ละทักษะนั้นผู้เรียนสามารถพัฒนาได้หลากหลายวิธี  เช่นทักษะการพูด  เราสามารถฝึกพูดโดยให้เจ้าของภาษาเป็นผู้โต้ตอบการสนทนากับเขา  ทักษะด้านการอ่าน  เราสามารถฝึกโดยการอ่านหนังสือนิทาน หนังสือพิมพ์ หรือวารสารของต่างประเทศบ่อยๆ ทักษะการฟัง เราสามารถฝึกได้ โดยการฟังวิทยุ ฟังเพลง ดูหนังเกี่ยวกับภาษาอังกฤษทั้งสิ้น  และทักษะการเขียน เราสามารถฝึกได้โดยการเขียนเรื่องราวประจำวันของตนเอง เขียนบรรยายสิ่งต่างๆรอบข้างตัวเรา ในการพัฒนาสิ่งเหล่านี้ เราไม่สามารถพัฒนาได้ชั่วข้ามคืน เราต้องใช้เวลาในการฝึกฝนซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เราจึงจะสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากที่เราฝึกฝนแล้วนั้น การเรียนภาษาก็มีกลยุทธ์ที่จะสามารถทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจภาษาได้ดียิ่งขึ้น
                กลยุทธ์ในการเรียนภาษาอังกฤษมีองค์ประกอบทั้งหมด 10 ประการ โดยแต่ละประการนั้นเราสามารถเรียนรู้ และนำไปเป็นแนวทางในการเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างลึกซึ้ง และได้รับความรู้อย่างเต็มศักยภาพ 1. การศึกษา คือ การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวยากรณ์ หรือคำศัพท์ในภาษาอังกฤษและยังมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับธรรมชาติ และความรู้ที่เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม 2. การฝึกฝน คือการประพฤติปฏิบัติอย่างซ้ำๆ จนคลองแคล่งไม่บกพร่อง 3. การสังเกต คือการใช้ตรรกะหยั่งรู้เอาเองได้ และมีความละเอียดถี่ถ้วนเก็บรายละเอียดของเนื้อหาเรื่องภาษาอย่างครบถ้วนสมบรูณ์ โดยเฉพาะไวยากรณ์ คำศัพท์ และภาษาสำเร็จรูป  4.การจดจำ คือการเรียนรู้จากการจดจำขึ้นใจ หรือการทำซ้ำๆ ทบทวนจนจำได้ และสามารถนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว 5. การเลียนแบบ คือพฤติกรรมที่มีการทำจากต้นแบบโดยอาศัยการลอกเลียนแบบ เช่นการเลียนแบบสำเนียงของฝรั่งหรือเจ้าของภาษา ทำให้เราสามารถออกเสียงได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 6. การดัดแปลง คือการนำความรู้มาดัดแปลงแก้ไขให้เข้ากับวัตถุประสงค์ในการใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆได้  7. การวิเคราะห์  คือต้องอาศัยการเลียนแบบอยู่มาก โดยการวิเคราะห์มี3ระดับใหญ่ๆ คือ ระดับศัพท์  คือวิเคราะห์โครงสร้างและความหมายของวลีและประโยค ในสิ่งที่ผู้พูดหรือผู้เขียนต้องการสื่อ  8. การค้นคว้า คือ การหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้ผู้รู้และประโยชน์สารพัดด้านกับผู้เรียน  9. การใช้งาน เมื่อเรามีการเรียนรู้ภาษาไปบ้างแล้ว เราควรที่ที่จะนำความรู้นั้นมาใช้งาน  เพื่อจะได้รู้ความรู้นั้นสามารถใช้ได้หรือไม่ 10. การปรับปรุง การฝึกฝนภาษานั้น ผู้เรียนที่ดีต้องช่างสังเกตและรู้ข้อผิดพลาดของตนเองและนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขด้วยการศึกษาเพิ่มเติม ฝึกฝน เพื่อความก้าวหน้าต่อไป

                การเรียนภาษานั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนที่จะใช้เพื่อการสื่อสารในอนาคตภาษาเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการประกอบอาชีพ  การเรียน และเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องใช้อีกไม่นานนี้ โดยเฉพาะประเทศไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน ภาษาอังกฤษจึงมีความสำคัญมากที่ทุกคนต้องศึกษาเล่าเรียน และเข้าใจในเนื้อหาของหลักไวยากรณ์คำศัพท์ต่างๆ โดยการฝึกภาษานั้นนอกจากฝึกทฤษฎีแล้ว การฝึกทักษะนั้นก็เป็นสิ่งที่ผู้เรียนจะได้ฝึกในทักษะต่างๆแล้ว  การฝึกทักษะนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เรียนสามารถทำให้ผู้เรียนเข้าใจและพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้น นอกจากผู้เรียนจะได้ฝึกในทักษะต่างๆแล้ว ยังสามารถทำให้ผู้เรียนได้รู้แนวทางการฝึกทักษะความรู้ในหลายๆด้าน โดยการเรียนแต่ละภาคทฤษฎีโดยไม่ปฏิบัตินั้นย่อมไม่ทำให้บรรลุเป้าหมายได้ ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราพัฒนาตนเองได้ แต่ถ้าหากเราควบคู่กันระหว่างความรู้และทักษะ จะทำให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้ง และเข้าใจอย่างแท้จริงได้ และสามารถใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึงกลยุทธ์ต่างๆ สามารถจะช่วยให้ผู้เรียนมีแนวทางในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเป็นระบบแบบแผน เป็นการจัดการองค์ความรู้ของตนเอง เพื่อให้ตนเองได้เรียนรู้และเข้าใจในภาษาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนแต่ละคนจะมีวิธีการเรียนอันเป็นลักษณะเฉพาะตัว มีการวางแผนของตนเอง มีการเรียนรู้ที่ต่างกัน  ทำให้ผู้เรียนแต่ละคนมีประสิทธิภาพที่ต่างกัน กลยุทธ์เหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้มากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในกระบวนการเหล่านี้ กระบวนการเหล่านี้จะสะท้อนให้เราเห็นว่าในทักษะและความรู้ของเรานั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน และสิ่งที่เราไม่พึงพอใจหรือควรแก้ไขปรับปรุงอย่างไร หากเรามีความรู้ในเรื่องของภาษาอย่างชัดเจน สามารถทำให้เรามีความเชียวชาญสามารถพัฒนาตนเองและผู้อื่นไปเรื่อยๆ สามารถสอนให้กับผู้คนที่ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจในความรู้ทางภาษาได้ และเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย ให้เด็กสามารถเข้าใจและพูดภาษาอังกฤษได้ เพื่อใช้ในการเรียน การทำงาน  และเพื่อเป็นการทำให้ประเทศไทยของเราสามารถพัฒนาในทุกๆด้าน เพื่อความก้าวหน้าของประเทศในการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น